สั่งซื้อสินค้า สมัครสมาชิกกิฟฟารีน ติดต่อ 0990494414    


สินค้าคุณภาพจากกิฟฟารีน



LZ Vit 3X


  
920.00 บาท
ลดเหลือ 736.00 บาท
 ขนาด  30  แคปซูล
 รหัสสินค้า : 41034
  จัดส่งฟรีเมื่อสั่งซื้อสินค้าราคาปกติ 350 บาทขึ้นไป







แอล ซี วิต 3 เอ็กซ์

ประกอบด้วย ลูทีนมากถึง 10 มก. เข้มข้นกว่าเดิมถึง 3 เท่า เพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นด้วยแอสตาแซนธิน และสารสกัดจากบิลเบอร์รี่ ผสานวิตามินเอ และวิตามินอี

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับลูทีน ซีแซนทีน และวิตามิน เอ



ลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxannthin) เป็นสารธรรมชาติที่มีในพืชผักผลไม้หลายชนิด เป็นสารในตระกูลของสารแคโรทีนอยด์ และพบได้ในบริเวณดวงตาตรงบริเวณเลนส์ตา และจอรับภาพของตา


ซึ่งในธรรมชาติแล้วแม้ว่าจะมี แคโรทีนอยด์มากกว่า 600 ชนิด แต่มีเพียงสาร 2 ชนิดนี้เท่านั้นที่พบในจุดรับภาพของจอตา และสารทั้งสองชนิดนี้จะทำหน้าที่ช่วยกรอง หรือป้องกันรังสีจากแสงแดดที่เป็นอันตรายต่อดวงตา และช่วยปกป้องเซลล์ของจอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลาย โดยการลดอนุมูลอิสระ
ดังนั้นสารลูทีนและซีแซนทีน จึงทำหน้าที่บำรุงตา ทำให้จอตาไม่เสื่อมเร็ว

พืชผักที่มีสารลูทีนและซีแซนทีนโดยมากมักจะเป็นผักผลไม้ที่มีสีเหลืองและสี เขียวเข้ม เช่น ข้าวโพด แครอท ฟักทอง ผักกาด ผักปวยเล้ง คะน้า ผักโขมฯ การบริโภคพืชผักที่มีลูทีนและซีแซนทีน หรือแม้แต่อาหารสุขภาพที่มีสารสำคัญแบบนี้ จะมีประโยชน์ในโรคหลายชนิดด้วยกัน ที่สำคัญคือ โรคต้อกระจก และโรคจุดรับภาพเสื่อม




ลูทีน และ ซีแซนทีน สำคัญ และ มีประโยชน์ต่อดวงตาอย่างไร?

ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคต้อกระจก จอตาเสื่อม เบาหวาน มะเร็งเต้านม และ โรคหลอดเลือดหัวใจ
เหมาะกับผู้ที่ใช้สายตามาก ผู้สูงอายุ ผู้ที่ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือ อยู่กับแสงสว่างจ้า กลางแดด
ผู้ที่ต้องขับรถกลางคืนบ่อยๆ ผู้ที่โดนแฟลช ดูทีวีมากและนาน
ช่วยผู้ป่วยเบาหวาน โรคหัวใจ มะเร็งเต้านม (อ้างอิง งานวิจัย ที่ 14,15,16)





วุ้นตาเสื่อม อาการ : มองเห็นเงาดำลอยไปมา คล้ายหยากไย่หรือยุงบินไปมา แต่เมื่อพยายามจ้องมอง อาการนั้นก็จะหายไปอย่างรวดเร็ว มักมองเห็นเงาดำชัดเจนขึ้นเวลามองไปบนท้องฟ้าหรือพื้นผนังสีขาว หรือบางครั้งเห็นแสงไฟวาบขึ้นมาในตาทั้งๆที่อยู่ในที่มืด สาเหตุมักมาจาก เสื่อมตามวัย วุ้นในตาจอตาอักเสบฯ

ใครบ้างมี ปัจจัยเสี่ยงต่อ สุขภาพตา ?
อายุเกิน 50 ปี สายตาสั้น
เคยมีอุบัติเหตุที่ตา
ภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดต้อกระจก
เบาหวานขึ้นจอตา
การอักเสบในตา
ใช้สายตามาก

โรคต้อกระจก ( Cataract ) คือภาวะที่กระจกตาหรือเลนส์ตาขุ่น ทำให้แสงไม่สามารถผ่านเข้าไปในตาได้ ตามปกติต้อกระจกไม่ใช่โรคติดต่อ ต้อกระจกจะค่อยๆ ขุ่นไปอย่างช้าๆ ใช้เวลาเป็นปีๆ และ สามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด

การวิจัยที่ Harvard School of Public Health, Boston ในผู้ชาย 36,644 คน ที่ได้รับอาหารเสริมและวิตามินต่างๆ พบว่ากลุ่มที่ได้รับอาหารเสริมเป็นลูทีนและซีแซนทีน จะลดความเสื่อมของโรคต้อกระจกถึง 19% (อ้างอิงที่ 7)และ

ที่ University of Massachusetts ทำวิจัยในสุภาพสตรีถึง 50,461 ค้นพบว่า ลูทีนและซีแซนทีน จะลดความเสี่ยงของโรคต้อกระจกถึง 22%(อ้างอิงที่ 8) การวิจัยที่ University of Wisconsin Madison Medical School ในผู้สูงอายุ 43-48 ปี จำนวน 1,354 คน พบว่า ลูทีนและซีแซนทีนช่วยลดอุบัติการณ์ของต้อกระจกที่เกิดตรงกลางเลนส์ (Nuclear Cataracts) ได้ถึง 50% (อ้างอิงที่ 9)

โรคจุดรับภาพเสื่อม ( Macula degeneration ) เกิดจากการเสื่อมของจุดรับภาพ (Macular) ซึ่งเป็นกลางจอตา (Retina) ทำให้การมองเห็นภาพเบลอบิดเบี้ยว บางครั้งอาจรุนแรงขนาดเห็นจุดดำมาบังภาพอยู่ตลอดเวลา (อ้างอิงที่ 10,11,12, 13 )

จากการวิจัยทั้งหมดนี้จึงเป็นที่ยอมรับว่า ลูทีนและซีแซนทีน ช่วยลดอุบัติการณ์โรคต้อกระจกในผู้สูงอายุได้จริง ลูทีนและซีแซนทีนกับโรคจุดรับภาพเสื่อม
นอกจากลูทีนและซีแซนทีนจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต้อกระจกแล้ว
ยังพบว่ามีประโยชน์ในโรคจุดรับภาพเสื่อม ซึ่งมีหลายๆ การศึกษาสนับสนุนข้อมูลดังกล่าว

โดยพบว่าถ้าปริมาณลูทีนและซีแซนทีนในลูกตาลดน้อยลง จะพบความเสื่อมมากขึ้นในการเป็นโรคจุดรับภาพเสื่อม (อ้างอิงที่ 10)
และความเสี่ยงในการเป็นโรคจุดรับภาพเสื่อมจะลดลง หากมีปริมาณลูทีนและซีแซนทีนในเลือดสูงขึ้น (อ้างอิงที่ 11, 12)
แสดงให้เห็นว่า การบริโภคอาหารที่มีลูทีนและซีแซนทีน สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้

แอสตาแซนธิน กับดวงตา
การรับประทานแอสตาแซนธิน 6 มก. ต่อเนื่องเป็นเวลา 4 สัปดาห์ ส่งผลดีต่อสุขภาพดวงตา โดยอาการเมื่อยล้าดวงตาลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และมีการทดลองในกลุ่มคนออกกำลังกาย พบว่า กลุ่มที่ได้รับแอสตาแซนธินสามารถออกกำลังกายได้นานขึ้น และความเมื่อยล้าของกล้ามเนื่อลดลง (อ้างอิงที่ 6,7)

ทั้งนี้ในประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา อนุญาตให้ใช้แอสตาแซนธินใรผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสูงสุดได้ไม่เกิน 6 มิลลิกรัมต่อวัน (อ้างอิงที่ 4) ดังนั้น ในปัจจุบันจึงมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีปริมาณการใช้แอสตาแซนธินสูงสุดตามที่ อย. กำหนด โดยอาจผสมกับวิตามินซี ที่มีส่วนช่วยในกระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจน (อ้างอิงที่ 5) เพื่อมุ่งหวังให้ผลดีต่อสุขภาพผิวพรรณของผู้บริโภค ลดการเกิดริ้วรอย ลดจุดด่างดำ เพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหนุ่นให้กับผิว ลดการเสื่อมของสภาพเซลล์ผิว ทำให้ผิวพรรณมีสุขภาพดี แลดูอ่อนวัยและกระจ่างใส แม้ตัวเลขของอายุจะเพิ่มขึ้นก็ตาม



วิตามิน เอ วิตามิน เอ มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ ที่สำคัญ คือ ช่วยในการมองเห็น (อ้างอิงที่ 13)
โดยไปร่วมใช้ ในการสร้างสารที่ใช้ในการมองเห็น ช่วยทำให้สามารถมองเห็นได้ดีในเวลากลางคืนหรือในที่แสงสว่างน้อย
บำบัดป้องกัน เยื่อบุตาแห้ง กระจกตาเป็นแผล ในกรณีที่ร่างกายขาดวิตามิน เอ อย่างรุนแรงอาจทำให้ตาบอดได้

เรื่องน่ารู้ของบิลเบอรี่ และบลูเบอรี่
บิลเบอรี่ เป็นพืชตระกูลเดี่ยวกับบลูเบอรี่ คือ อยู่ในตระกูล Vaccinium spp. มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Vaccinium myrtillus ซึ่งพบได้มากในยุโรป สาระสำคัญที่อยู่ในบิลเบอรี่และบลูเบอรี่คือ Anthocyanosies ซึ่งจัดอยู่ในสารประเภท Flavonoids (อ้งอิงที่ 1,2) มีประโยชน์ในการบำรุงสายตาและบำรุงจอตา มีส่วนช่วยในเรื่องการมองเห็นในที่มืดได้ดีขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นผลดีในโรคตาบอดตอนกลางคืน (Night Blindness) (อ้างอิงที่ 3,4,5)

นอกจากนี้ สารในกลุ่ม Anthocyanosides ยังช่วยป้องกัน Retina ถูกทำลายโดยกระบวนการ Oxidation ที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย และยังช่วยสร้าง Rhodopsin ซึ่งเป็นสารสีที่พบได้ในส่วนนอกของ Retina Rod (อ้างอิงที่ 6) จึงอาจจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดต้อกระจกอีกด้วย (อ้างอิงที่ 7,8)

คุณสมบัติอื่นๆ ของบิลเบอรี่ ที่มีการรายงานจนถึงปัจจุบัน มีดังนี้
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับหลอดเลือด และลดโอกาสการเกิดสภาวะหลอดเลือดแข็งตัว หรือหลอดเลือดเปราะซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเลือดหลายชนิด (อ้างอิงที่ 9)
- ประกอบด้ยสารหลายชนิดทีมีคุณสมบัติเป็นสารต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Antioxidant) จึงลดการเสื่อมของเซลล์ชนิดต่างๆในร่างกายได้ (อ้างอิงที่ 9)
- อาจจะช่วยลดการเกิดมะเร็ง ด้วยกลไกของการเหนี่ยวนำให้เซลล์มะเร็งตายไป (Apoptosis) (อ้างอิงที่ 10) บลูเบอรี่ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่สูงมาก และมีงานวิจัยทีศูนย์รัจเจอร์ ที่วิจัยบลูเบอรี่ แครนเบอรี่ (RutgersBlueberryCranberryResearchCenter) ในเมืองแชทเวิร์ทนิวเจอร์ซี พบว่า บลูเบอรี่ช่วยทำให้ระบบของท่อปัสสาวะทำงานได้ดีขึ้น เนื่องจากมีสารประกอบที่ป้องกันเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุการติดเชื้อในท่อปัสสาวะ ที่ได้รับมาจากผนังกระเพาะปัสสาวะ (อ้างอิงที่11,12)
แอล ซี วิต 3 เอกซ์ ประกอบด้วย ลูทีนมากถึง 10 มก. เข้มข้นกว่าเดิมถึง 3 เท่า เพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นด้วยแอสตาแซนธิน และสารสกัดจากบิลเบอร์รี่ ผสานวิตามินเอ และวิตามินอี

ส่วนประกอบสำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล :
- ลูทีน  5%  200 มก. (ให้ลูทีน 10 มก.)
- แอสตาแซนธิน 2.5%จากฮีมาโตคอกคัส พลูวิเอลิสสกัด     80 มก.(ให้แอสตาแซนธิน 2 มก.)      
- ซีแซนทีน  5%  63 มก. (ให้ซีแซนทีน 3.15 มก.)
- สารสกัดจากบิลเบอร์รี่    10 มก.                    
- ดีแอล-แอลฟา-โทโคเฟอริล แอซีเทต (50%)    6 มก. (ให้วิตามินอี 3 หน่วยสากล)
- วิตามิน เอ แอซีเทต  4.098 มก. (ให้วิตามิน เอ 1332 หน่วยสากล)



รับประทานวันละ 1 แคปซูลหลังอาหาร

รหัสสินค้า 41034
ปริมาณสุทธิ : 30.00 แคปซูล
น้ำหนักรวม : 45.18 กรัม
จำนวน : 1 กระปุก

ราคา : 920 บาท



สั่งสินค้าผลิตภัณฑ์กิฟฟารีนหรือ สมัครสมาชิกที่นี่










IBIZ FREEDOM PLUS
BY GIFFARINE
ให้เราช่วยดูแลคุณ
ติดต่อ ปรีกษา ผู้เชี่ยวชาญ:
บริษัท ไอบิซฟรีดอม จำกัด
โทร:0990494414
สมัครสมาชิกรับส่วนลดทันที25%





              ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ 
             จาก บ.กิฟฟารีนสกายไลน์ยูนิตี้จำกัด
แชร์ หน้านี้ 
ขอสงวนสิทธิ์ในการคัดลอกบทความ หรือ รูปภาพ ห้ามนำไปใช้โดยมิได้รับอนุญาติ
จัดทำโดยนักธุรกิจกิฟฟารีน มิใช่เว็บไซต์ อย่างเป็นทางการของบริษัทกิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้